“อัลไซเมอร์” เป็นอาการสมองฝ่อที่เกิดจากปัญหาเนื้อสมองเกิดการหดตัวลง เซลล์สมองบางส่วนถูกทำลายไป ในสมัยก่อนคนไทยไม่ค่อยมีอาการนี้เมื่อเทียบกับฝรั่ง แต่ในปัจจุบันเริ่มมีมากขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุเกิน 65 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้เป็นอย่างสูง ส่วนวิธีการลดความเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์นอกจากลดความเครียด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เรื่องอาหารการกินก็เป็นตัวช่วยสำคัญด้วยเช่นกัน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา เปิดเผยข้อมูลว่าการกินอาหารบางชนิดช่วยลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ได้ถึงร้อยละ 40 นั่นคืออาหารที่ดีต่อภาวะหัวใจ เพราะภาวะหลอดเลือดดีย่อมส่งผลให้หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองดีตามไปด้วย
ดังนั้นจึงต้องรู้จักเลือกกินอาหารให้เป็น เช่น กินผัก-ผลไม้และถั่วให้มากขึ้น ร่างกายจะได้รับกรดโฟลิกซึ่งช่วยลดภาวะอักเสบในหลอดเลือด ลดความเสี่ยงปัญหาหลอดเลือดตีบที่จะมีผลต่อสมองโดยตรง รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสื่อมของหลอดเลือดและเซลล์สมอง
เนื้อแดง อย่าง เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ ที่มีไขมันอิ่มตัว และกรดไขมันโอเมก้า 6 ชนิดที่มีปัญหาซ่อนอยู่ สร้างปัญหามากกว่า หากจะกินเนื้อให้กินเนื้อไก่ที่เนื้อขาว (ไม่รวมหนัง) เพราะในเนื้อขาวจะมีไขมันแทรกตัวอยู่น้อยกว่า แม้กระทั่งนมชนิดมีไขมันเต็ม ผลิตภัณฑ์จากนมอย่างเนยแข็ง ก็มีผลไม่ต่างจากเนื้อแดงเช่นกัน ดังนั้นจึงควรเลือกดื่มนมชนิดพร่องมันเนยหรือชนิดปลอดมันเนยแทน
หรือการใช้น้ำมันในการปรุงอาหาร น้ำมันมะกอกจะมีกรดไขมันอิ่มตัวหนึ่งตำแหน่งหรือกรดโมโนอยู่มาก มีผลดีต่อหลอดเลือด แต่ราคาสูง อาจเลือกใช้น้ำมันที่มีกรดโอเลอิกแทน ซึ่งเรียงลำดับได้ดังนี้ น้ำมันถั่วมีกรดโอเลอิก 50 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันงามี 41 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันรำข้าว 40 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันปาล์มโอเลอินมี 38 เปอร์เซ็นต์ และน้ำมันถั่วเหลืองมี 23 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ควรกินมากเกินไป
อาหารที่พิเศษต่อสมองมาก ราคาไม่แพง และมีมากมายในบ้านเราได้แก่ “ปลา” ไม่ว่าจะปลาทะเลหรือปลาน้ำจืด เพราะเนื้อปลามีโปรตีนที่ย่อยง่าย มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์อเนกอนันต์ต่อหลอดเลือดหัวใจอันจะส่งผลให้สมองแข็งแรง ช่วยสกัดกั้นโรคอัลไซเมอร์ได้เป็นอย่างดี